รูปแบบเชิงสาเหตุการเสริมสร้างพลังอำนาจการทำงานของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในภาคใต้

Abstract

การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบเชิงสาเหตุการเสริมสร้างพลังอำนาจการทำงานของครู และตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบเชิงสาเหตุการเสริมสร้างพลังอำนาจการทำงานของครูที่พัฒนาขึ้นกับข้อมูลเชิงประจักษ์ การวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การพัฒนารูปแบบเชิงสาเหตุการเสริมสร้างพลังอำนาจการทำงานของครู โดยผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 7 คน เครื่องมือเป็นแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง รวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา ระยะที่ 2 การตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบเชิงสาเหตุด้วยข้อมูลเชิงประจักษ์ ด้วยการเลือกสุ่มกลุ่มตัวอย่างข้าราชการครูโรงเรียนของรัฐ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในภาคใต้ ประจำปีการศึกษา 2559 จำนวน 400 คน เครื่องมือเป็นแบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.805 – 0.870 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์เส้นทางอิทธิพล โดยใช้โปรแกรมประยุกต์

            ผลการศึกษาในครั้งนี้ พบว่า 1) รูปแบบเชิงสาเหตุการเสริมสร้างพลังอำนาจการทำงานของครูที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้น โดยการบริหารแบบ
มีส่วนร่วมมีอิทธิพลโดยตรงต่อการเสริมสร้างพลังอำนาจการทำงานของครูมากที่สุด รองลงมา คือ การสร้างเป้าหมาย ตามลำดับ ส่วนปัจจัยการจัดระบบเสริมแรงและการสร้างเป้าหมายนั้น มีอิทธิพลทางอ้อมต่อการเสริมสร้างพลังอำนาจการทำงานของครูมากที่สุดตามลำดับ และเมื่อพิจารณาผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า ตัวแปรเชิงสาเหตุรูปแบบความสัมพันธ์ของการศึกษาวิจัยนั้นสามารถอธิบายความแปรปรวนต่อการเสริมสร้างพลังอำนาจการทำงานของครูได้ในระดับสูง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปัจจัยที่นำมาพัฒนารูปแบบความสัมพันธ์ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีอิทธิพลต่อการเสริมสร้างพลังอำนาจการทำงานของครูเป็นอย่างมาก ตลอดทั้ง 2) รูปแบบเชิงสาเหตุที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ และยังส่งผลต่อการเกิดประสิทธิผลของงานและความพึงพอใจในการทำงานของครูในสถานศึกษาอยู่ในระดับสูงเช่นกัน จึงแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของรูปแบบเชิงสาเหตุและสามารถนำไปใช้พัฒนาและเสริมสร้างพลังอำนาจการทำงานของครูต่อไป