รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยทางการบริหารการศึกษา ของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
Keywords:
สมรรถนะการวิจัย การวิจัยทางการบริหารการศึกษาAbstract
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการพัฒนาสมรรถนะการวิจัย, สร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการวิจัย ประเมินผลการใช้รูปแบบ และความพึงพอใจต่อรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยทางการบริหารการศึกษา ของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี การวิจัยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้ 1 ศึกษาความต้องการในการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยทางการบริหารการศึกษา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักศึกษา จำนวน 68 คน โดยใช้แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย 2 สร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยทางการบริหารการศึกษา ของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี โดยศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องและจากการศึกษาความต้องการในขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบคุณภาพ โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ผลการประเมินโดยรวมอยู่ในระดับมาก 3 ทดลองใช้รูปแบบ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่นักศึกษา จำนวน 28 คน ประเมินความรู้ความเข้าใจก่อนและหลังการใช้รูปแบบ โดยใช้แบบทดสอบ มีค่าความยาก ระหว่าง .20-.80 ประเมินสมรรถนะทางการวิจัยทางการบริหารการศึกษา โดยใช้แบบสอบถาม ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .96 และประเมินความพึงพอใจ โดยใช้แบบสอบถาม ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .94 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐานได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า ความต้องการในการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยทางการบริหารการศึกษา ของนักศึกษา โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับดังนี้ คือ ด้านทักษะการดำเนินการวิจัย ด้านความรู้ทางการวิจัย และ ด้านคุณลักษณะของนักวิจัย ผลการสร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยทางการบริหารการศึกษา ของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ คำชี้แจงการใช้รูปแบบ ความเป็นมาและความสำคัญของรูปแบบ หลักการและวัตถุประสงค์ กระบวนการดำเนินงาน และแนวทางการประเมินผลรูปแบบ การทดลองใช้รูปแบบ กำหนดวิธีการวิจัยเป็น 4 ขั้นคือ ทดสอบความรู้พื้นฐานการวิจัยก่อนใช้รูปแบบ ทดลองใช้รูปแบบตามกระบวนการและขั้นตอนของรูปแบบที่กำหนด ทดสอบหลังการใช้รูปแบบ ประเมินผลการใช้และความพึงพอใจของการใช้รูปแบบ จากการทดลองใช้ พบว่า ผลการประเมินความรู้ความเข้าใจก่อนและหลังแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการประเมินสมรรถนะการวิจัยก่อนและหลัง แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และผลการประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยทางการบริหารการศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก