ความเป็นมาของการเมืองการปกครองไทย

Authors

  • ไพฑูรย์ มีกุศล

Abstract

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นมาของการเมืองการปกครองไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน และผลกระทบจากการเมืองการปกครองไทยร่วมสมัย  แนวคิดทางศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู  พระพุทธศาสนา  ความเชื่อพื้นเมืองดั้งเดิมและวิธีการทางประวัติศาสตร์เป็นแนวทางในการศึกษา  โดยอาศัยหลักฐานปฐมภูมิและทุติยภูมิจากงานของนักประวัติศาสตร์และนักปรัชญาประวัติศาสตร์  แล้วนำเสนอผลการศึกษาเชิงพรรณนาวิเคราะห์  

ผลการศึกษาพบว่า   ความเป็นมาของการเมืองการปกครองไทยในอดีต  ในทางทฤษฎีนั้น  พระมหากษัตริย์ทรงมีอำนาจสูงสุดทางเมืองการปกครอง  เริ่มจากการปกครองแบบพ่อปกครองลูกตามคติความเชื่อพื้นเมืองไทยดั้งเดิม  และแบบธรรมราชาทรงยึดคติทางพระพุทธศาสนาในเรื่องมหาสมมติราชหรือ ธรรมราชาตามคติความเชื่อทางพระพุทธศาสนาและคติเทวราชาในศาสนาพราหมณ์ – ฮินดูในลักษณะผสมผสาน  พระมหากษัตริย์ทรงตั้งตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีฝ่ายสมุหนายกบังคับบัญชาฝ่ายพลเรือนทั่วไป อัครมหาเสนาบดีฝ่ายสมุหพระกลาโหมบังคับบัญชาฝ่ายทหารทั่วไป และมีกรมจตุสดมภ์ คือ  นครบาล (เวียง) ธรรมาธิกรณ์ (วัง) โกษาธิบดี ( คลัง) เกษตราธิการ ( นา)   บังคับบัญชาในราชธานี  ส่วนการปกครองหัวเมืองนั้นได้แบ่งเป็นหัวเมืองชั้นใน  หัวเมืองชั้นนอก  และหัวเมืองประเทศราช  ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (รัชกาลที่ 1-3) บทบาทของกรมท่ามีความสำคัญในการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศมากขึ้น  จึงมีความสำคัญเท่ากับฝ่ายพลเรือนซึ่งบังคับบัญชาหัวเมืองฝ่ายเหนือและสมุหกลาโหมบังคับบัญชาหัวเมืองฝ่ายใต้  เมื่อมีการปฏิรูปการปกครองในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ 5  ใน พ.ศ. 2435  พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แบ่งราชการส่วนกลางออกเป็น 12 กระทรวง    การปกครองส่วนภูมิภาคเรียกว่าการปกครองแบบเทศาภิบาล  และการปกครองส่วนท้องถิ่นเรียกว่าสุขาภิบาล   การปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินเกิดขึ้นในทุก ๆ ด้านตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมาส่งผลให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าสู่ความทันสมัยเป็นรัฐชาติสมัยใหม่  ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดยมีคณะราษฎรเข้ายึดอำนาจการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยใน พ.ศ. 2475 

อย่างไรก็ดี  การบริหารประเทศของรัฐบาลหลัง พ.ศ. 2475 ได้เกิดความขัดแย้งระหว่างคณะราษฎรกับฝ่ายรัฐบาล  จนหัวหน้าฝ่ายทหารเข้ายึดอำนาจใน พ.ศ. 2476 เป็นครั้งแรก  ความขัดแย้งทางการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาสำคัญที่ก่อให้เกิดการรัฐประหารถึง 22 ครั้ง  และครั้งล่าสุดคือ รัฐประหาร 22  พฤษภาคม 2557 ซึ่งเกิดจากกลุ่มทุนและนักการเมืองที่มีฐานอำนาจและการเงินมหาศาล  จนส่งผลกระทบให้เกิดวิกฤตในสังคมไทยในปัจจุบัน

Additional Files

Published

2020-06-30

How to Cite

มีกุศล ไ. . . (2020). ความเป็นมาของการเมืองการปกครองไทย. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (Journal of Humanities and Social Sciences, SRU), 12(1), 275–293. Retrieved from https://e-journal.sru.ac.th/index.php/jhsc/article/view/1095